ประวัติความเป็นมาสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 จังหวัดราชบุรี มีประวัติการเปลี่ยนแปลงและการปรับโครงสร้างการทำงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยเริ่มต้นจากการเป็นส่วนแยก และมีการขยายขอบเขตความรับผิดชอบในพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้
ในปี พ.ศ. 2547 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ออกคำสั่งที่ 71/2547 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2547 จัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 7 ส่วนแยก จังหวัดราชบุรี (สศข. 7 ส่วนแยก จ.ราชบุรี) โดยมีพื้นที่รับผิดชอบ 6 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม
ต่อมาในอีก 5 ปีให้หลัง เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2552 ได้มีการออกคำสั่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 165/2552 เพื่อยกฐานะและเปลี่ยนชื่อเป็นสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 10 จังหวัดราชบุรี (สศข. 10 จังหวัดราชบุรี) พร้อมทั้งขยายพื้นที่รับผิดชอบเพิ่มขึ้นเป็น 7 จังหวัด โดยเพิ่มจังหวัดนครปฐมเข้ามาในพื้นที่เดิม
หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2557 วันที่ 20 มิถุนายน 2557 ได้มีคำสั่งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 367/2557 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการปรับโครงสร้างพื้นที่รับผิดชอบ โดยมีการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 13-18 ขึ้น ทำให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 มีการปรับลดพื้นที่รับผิดชอบจาก 7 จังหวัด เหลือเพียง 4 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และกาญจนบุรี ในขณะเดียวกันก็มีการจัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 17 จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบ 4 จังหวัด คือ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 17 แห่งนี้ยังคงอยู่ภายใต้หน่วยเบิกจ่ายของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10
ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2558 มีการเปลี่ยนแปลงรหัสพยัญชนะเพื่อความชัดเจน โดยในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558 ได้มีการกำหนดรหัสพยัญชนะจาก สศข. 1-12 เป็น สศก. 1-12 และในอีกไม่กี่วันต่อมา เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ได้มีการเปลี่ยนแปลงรหัสพยัญชนะอีกครั้งจาก สศก. 1-12 เป็น สศท. 1-12 พร้อมกับการปรับโครงสร้างสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1-12 และสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 17 ให้เป็น สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 10 ส่วนแยกจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งยังคงมีพื้นที่ความรับผิดชอบตามเดิม
ท้ายที่สุด ในปี พ.ศ. 2559 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ออกคำสั่งที่ 535/2559 เพื่อยกเลิกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรส่วนแยกทั้งหมด ซึ่งเป็นการรวมศูนย์การบริหารจัดการและปรับโครงสร้างให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการปรับปรุงและพัฒนาการดำเนินงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อภารกิจในการส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรในแต่ละพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด